ยอดเขาทิตลิส(Titlis) เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเอง
อ่านบทความเรื่อง ยอดเขาทิตลิส(Titlis) เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเอง
https://joaw-ying.com/travel/titlis/เผยแพร่ – July 13, 2017 ในหมวด Switzerland, ต่างประเทศ
เช้านี้เราอยู่กันที่ลูเซิร์น (lucerne) จะเดินทางไปเที่ยวเมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) พอเราเชคเอาท์ออกจากที่พักแล้วทางโรงแรมก็ไม่รับฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม เราเลยเอากระเป๋ามาฝากที่ตู้ที่สถานีคะ เพราะเราไปเที่ยวเสร็จก็ต้องนั่งรถไฟมาลงที่สถานีเดิมอยู่ดี เริ่มจากกระเป๋า 20นิ้ว 2 ใบเอาเข้าตู้ขนาดกลางได้เลยรวมเป็นตู้เดียวกันไปเลยตู้นี้ราคา 7 ฟรังค์ ส่วนใบใหญ่ 28นิ้วก็จัดไปอีกตู้คะราคา 9ฟรังค์ ฝากได้ 1 วัน แล้วจะสามารถดึงลูกกุญแจออกจากตู้ได้คะ เก็บไว้ดีๆนะคะไม่งั้นต้องทิ้งกระเป๋าไว้ที่ตู้แน่เลย
เรียบร้อยก็ไปรอขึ้นรถไฟไปเมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) กันด้วยรถไฟขาวแดงขบวนนี้เลยคะ ป้ายไฟจะขึ้นชื่อเมืองไว้ชัดเจนไม่ผิดแน่นอน
เวลาจะขึ้นรถไฟจะมีปุ่มให้กดเปิดประตูนะคะ ยืนหน้าประตูเฉยๆไม่ได้ขึ้นแน่คะต้องบริการตัวเอง
นั่งชมวิวไปไม่นานประมาณ 45นาทีก็ถึงเมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg)
ซื้อตั๋วเพื่อนขึ้นเขาทิสลิสตรงสถานีนี้ก่อนนะคะ ราคา44ฟรังค์ แล้วก็นั่งบัสไปที่ทางขึ้นกระเช้าคะยืนรอฝั่งตรงข้ามโรงแรมหน้าต่างสีแแดงๆในรูปต่อไปคะ
แล้วก็มาถึงสถานีขึ้นกระเช้ากันแล้ว
เปลี่ยนกระเช้าขึ้นไปอีกระดับคะ กระเช้านี้จะชันมาก และวิวรอบๆจะเป็นหิมะมากขึ้นเรื่อยๆ
และกระเช้าสุดท้ายจะนำเราไปถึงสถานียอดเขา ความพิเศษของกระเช้านี้จะหมุนรอบ 360 องศาให้นักท่องเที่ยวได้มองวิวรอบๆโดยที่ตัวเองยืนอยู่ที่เดิม กระเช้านี้ดีมากๆเลยเราไม่ต้องเดินไปไหนก็สามารถมองได้ทุกด้าน ไม่ต้องแย่งที่กันได้เห็นทุกคน
ขึ้นมาถึงก็เดินสำรวจห้องอาหารก่อนเลยคะ เพราะใกล้จะหิวแล้ว
เดินดูอาหารก็มีพวกไส้กรอก เส้น มันบด เฟรนฟาย ผักลวก แล้วก็เดินไปเจอมาม่าคัพวางขายพร้อมน้ำร้อน เลยอยากกินมาม่าจัดมา1ถ้วยราคา 6.5ฟรังค์ คูณเงินบาทเข้าไปเท่ากับมาม่าถ้วยนี้ราคา 235 บาทการกินมาม่าบนยอดเขานีฟินกว่ากินไส้กรอกกับขนมป้งมากเพราะแอบติดรสชาติไทยมากกว่า แหะๆๆ
ถึงเวลาที่เราต้องเดินออกไปนอกอาคารกันได้แล้ว นี่นั่งรอฟ้าเปิดมาสักพักแล้วท่าทางจะไม่ ฟ้ามีเมฆหมอกทั้งเกือบตลอดทั้งวัน
แนะนำว่าให้หาเสื้อที่สามารถกันน้ำได้ เพราะถ้าหิมะตกและมีหมอกเยอะน้ำจะเกาะติดเสื้อผ้าของเราคะ จะยิ่งทำให้ร่างกายเราหนาว นักท่องเที่ยวบางส่วนจึงเอาเสื้อกันฝนออกมาใส่เพื่อกันน้ำและลมแทนคะ มันก็จะปลิวๆหน่อย
เดินไปตามทางมองเห็นทางไม่เกิน20 เมตร ค่อยๆเดินไปช้าๆ อย่าออกนอกแนวรั้วเชือกก็พอ เพราะมองไม่เห็นเลยว่าเป็นผาหรือเป็นพื้น เดินไปหวาดเสียวไป ถ้าฟ้าเปิดคงมองเห็นแล้วว่าข้างซ้ายนั้นเป็นที่โล่งมองเห็นวิวภูเขาลูกอื่นๆเรียงเต็มไปหมด
เดินมาถึงจุด ICE Flyer เป็นกระเช้านั่งห้อยขาไว้สำหรับนักเล่นสกี หรือ คนที่ไม่เล่นสกีก็นั่งชมวิวแบบเติมๆตาได้ในจุดนี้เราอยากนั่งกระเช้าไปจริงๆเลยรีบเดินเข้าเพราะเห็นคนยืนๆรออยู่เดี๋ยวคนเยอะจะรอคิวนาน
แต่เมื่อเข้าไปใกล้จุดนี้มันปิดให้บริการเนื่องจากสภาพอากาศตอนนั้นไม่ปลอดภัย ถึงนั่งไปก็ไม่เห็นวิว แถมลมแรงอาจทำให้นักท่องเที่ยวตกจากกระเช้าอีกเลยอดขึ้นเลยคะ ไว้ครั้งหน้ามีโอกาสมาอีกจะมาซ่อมที่นี่แน่นอนคะ
เดินต่อมาอีกจุดนึงอยู่ใกล้ๆกัน เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยคะทางเดิน TITLIS Cliff Walk ถือได้ว่าเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในยุโรป
ตัวสะพานมีความกว้างเพียงหนึ่งเมตรและยาว 100 เมตร แต่ด้านล่างนี้สูงมากแต่วันที่เราไปมีแต่หมอกคะเลยไม่ได้เห็นความสวยงามของวิวยอดเขาและไม่เสียวข้างเท่าไหร่คะมีแต่ความแกว่งๆของสะพานที่มองไม่ค่อยเห็นพื้นข้างล่าง จะเสียวก็ตรงมองข้างหน้าไม่เห็นว่าจะสุดทางเดินหรือยังเท่านั้นเอง
เดินไปจนสุดทางก็ได้แค่วิวนี้ อยู่ในหมอกตลอดเวลาเหมือนเราเป็นเทพเดินบนหมอกคะ
กลับมาที่อาคารเพื่อลงไปชั้นล่างไปถ้ำน้ำแข็ง
ในถ้ำน้ำแข็งมีทางยาว 150 เมตร และลึกจากผิวธารน้ำแข็งลงมา 20 เมตรอุณหภูมิภายในถ้ำยังคงหนาวจัด -1.5 องศาเซลเซียส แต่ไม่มีลมแรงแล้วไม่หนาวเท่าอากาศข้างนอกแน่นอน เดินดูระวังลืนกันด้วยนะคะ เห็นคนลื่นหลายคนเลย การเข้าถ้ำธารน้ำแข็งเป็นบริการฟรีไม่ต้องเสียค่าเข้านะคะ
สุดท้ายของที่ระลึกที่ทิสลิส ก็มีพวกมีดพก ช้อนส้อมที่มีตราธงชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ราคาก็ตามในภาพเลยคะ วันนี้ขอจบรีวิวแค่นี้ก่อนนะคะไว้เจอกันในบทความต่อไปคะ ^^