Shopping ซื้ออะไรที่ญี่ปุ่นมาบ้าง

February 19, 2016 in ญี่ปุ่น, ต่างประเทศ

บทความนี้ขอบันทึกพวก Skin Care ที่ซื้อมาจากตึกม่วงอันเป็นที่รู้จักกันของสาวๆกันว่าเป็นที่ละลายทรัพย์มากที่สุดและพลาดไม่ได้ที่จะไม่มา เพราะมีขายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นขนมญี่ปุ่น ของฝาก ชอคโกแลต และเครื่องสำอางค์ที่สาวๆต้องยืนดูในร้านไม่ต่ำกว่าชั่วโมงแน่นอน

หญิงจะบันทึกราคาเป็นเงินเยน ณ ตอนที่ไปเที่ยวมานั้นคือเดือนกุมภาพันธ์ 2016 สาวๆไปบวกลบคูณหารกันเองนะคะว่าเท่าไร เพราะเรทเงินที่แลกไปช๊อปหรือเรทเงินรูดบัตรเครดิตไม่เท่ากัน ที่บันทึกราคานี่ก็เพราะจะเก็บเอาไว้ดูว่าเราซื้ออะไรมาบ้าง และซื้อมาเท่าไรก็เท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ใดๆทั้งสิ้น แต่ถ้าเป็นประโยชน์ให้สาวๆนักช๊อปเตรียมตัว รู้ราคาล่วงหน้า เตรียมงบประมาณไปช๊อปก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งคะที่ได้ให้ข้อมูลไว้ในบทความนี้ งั้นมาดูกันว่าครั้งนี้ได้อะไรมาบ้าง

Shopping in Japan

Shopping in Japan

ภาพหมู่กันก่อนเลยคะ ไม่รวมของเล่นกันดัมนะคะ เอามาวางๆให้เต็มพอดีเท่านั้นคะ อิอิ

 

DHC vitamin c ได้มาในราคาลดอีก 24% ¥348 เท่านั้นเองถูกมากกกกก
DHC cleansing oil ¥715
cleansing oil ¥598
Kose Clear Turn Facial Sheet Mask ¥772
johnson and johnson body lotion ¥387
มาส์กดำ ¥1,404
Hada Labo Retinol Lifting & Firming Lotion ¥1110
hada labo Gokujun premium hyaluronic lotion¥864
Hada Labo Super Hyaluronic Acid Moisturizing Lotion ¥691
My Melodies ¥240
Kit Kat ¥298
ปลาชีส ¥320

16/10/2016

วิตามินหยอดตา สูตรเย็น ¥198

วิตามินหยอดตา สูตรเย็น ¥198

วิตามินหยอดตา สูตรโกลว์ สำหรับอายุ40  ¥536

ปัดแก้มสีชมพู เบอร์ 20 ¥550

แผ่นเช็ดเครื่องสำอางค์ ¥276

แผ่นเช็ดเครื่องสำอางค์ ¥276

เบส สีชมพู ¥680

¥267

เที่ยวอิตาลี พาไปโคลอสเซียม แห่งกรุงโรม

January 17, 2016 in ต่างประเทศ, อิตาลี

รีวิว สถานที่เที่ยวอิตาลี ทริปอิตาลี 4 วัน 3 คืน

Day 1 Milan 10/12/2015
เที่ยวมหาวิหารดูโอโม (Duomo di Milano)
Day 2 Rome 11/12/2015
เที่ยวโคลอสเซียม
Day 3 Rome 12/12/2015
เที่ยวน้ำพุเทรวี่, Pantheon, Paizza Novana และ บันไดเสปน
Day 4 Florence 13/12/2015
เที่ยวหอเอน Pisa
เที่ยวมหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร (Cathedral of Santa Maria dei Fiore)

ต่อเนื่องกันเลยกับทริปเที่ยวอิตาลีนะคะ ก็เข้าสู่วันที่ 2 ของทริป วันนี้เป็นทริปเที่ยวโรม ตามแพลนแล้วเราเดินทางด้วยรถไฟด่วนของ Trenitalia มาถึงที่โรมก็ประมาณเกือบเที่ยงๆ มาลองดูแพลนคร่าวของหญิงนะคะ เผื่อเอาไปปรับเปลี่ยนกัน

11/12/2015
12:00 Check in ที่โรงแรม, กินข้าว หาซื้อ Pass
14:00 เที่ยวโคลอสเซียม Colosseum
16:00 เที่ยว Roman Forum
17:00 เที่ยว Altare della patria
18:00 เดินทางกลับ

เนื่องจากเรามาถึงก็ปาเข้าไปช่วงเที่ยงแล้ว เวลาเลยมีแค่ครึ่งวันเท่านั้น ยิ่งเป็นช่วงหน้าหนาวแล้วด้วย เวลายิ่งน้อยลงอีก ดังนั้นเลยต้องรีบทำเวลานิดหน่อย

เมื่อมาถึงที่โรมใหม่ๆ ถ้าเราต้องใช้รถใต้ดิน รถบัส หรือรถรางบ่อยๆ แล้วก็เที่ยวด้วย แนะนำว่าซื้อ Roma Pass จะสะดวกสบายมากขึ้น สำหรับรายละเอียดอ่านได้ที่เว็บนี้เลย และที่สำคัญ วันนี้เราจะใช้บัตรนี้ในการเที่ยวเพื่อเข้าชมโคลอสเซียมด้วย ดังนั้นให้หาร้านขายหนังสือคล้ายๆเป็นซุ้มขายของบ้านเรา ให้เข้าไปถามได้เลยว่ามี Roma Pass หรือเปล่า สำหรับหญิงเอง เดินทางมาจากอีกเมืองมาลงที่สถานีรถไฟ Roma Termini ก็เลยสะดวกหน่อย สามารถหาซื้อจากร้านหนังสือใกล้ๆทางออกจากสถานีได้เลย (ตาม Counter ของรถไฟไม่มีขายนะคะ) โดนเราซื้อแบบ 48 ชั่วโมง ราคาตอนนั้น 28 € โดยจะได้เป็นซองๆมา เราก็เอาแต่การ์ดมาใช้ เมื่อเริ่มใช้งานได้ครั้งแรก มันก็จะเป็นการ Activate บัตรเองโดยอัตโนมัติ และก็จะหมดอายุในอีก 48 ชั่วโมงถัดไปนั่นเอง Read the rest of this entry →

รีวิวที่พักฮ่องกงย่านมงก๊กโรงแรมไร่ เล่ย Railei Hotel

January 10, 2016 in ต่างประเทศ, ที่พัก, ฮ่องกง

รีวิวที่พักฮ่องกงย่านมงก๊ก Railei Hotel

หาที่พักย่านมงก๊กจากอโกด้า เงื่อนไขในการเลือกห้องพักเราก็คือใกล้แหล่งช๊อปปิ้งมงก๊ก ใกล้ป้ายรถเมล A21 มีห้องน้ำในตัว และห้องพักราคาถูกเพราะพักแค่คืนเดียวอยากได้สะดวกๆเดินไม่ไกลจะเก็บแรงไว้ช๊อปปิ้ง อย่างที่รู้ๆกันคะว่าที่พักฮ่องกงห้องจะค่อนข้างเล็ก กะทัดรัด เนื้อที่ไม่เยอะต้องทำใจหน่อยนะคะออกแนวมาเที่ยวถึงห้องก็นอนหลับอย่างเดียว ห้องเท่าแมวดิ้นตาย ค้นหาในอโกดาสักพักก็มาถูกใจที่นี่ ยังไม่เคยพักเหมือนกันแต่ในภาพดูโอเคอยู่ ชื่อว่า โรงแรมไร่ เล่ย(Rai Lei Hotel) เป็นโรงแรม 2 ดาว ขนาดของห้อง 2 คน 7-8 ตร.ม. 1 เตียงใหญ่ มีทั้งห้องที่มีหน้าต่างและไม่มีหน้าต่าง สามารถเช็คอินได้ตั้งแต่: 03:00 PM และเช็คเอาท์ได้จนถึง: 11:59 AM โรงแรมนี้มีห้องพักทั้งหมดจำนวนห้อง: 30 มี 2 ชั้น ที่พักสร้างขึ้นในปี: 2006 และถูกปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อปี: 2014 สภาพโรงแรมน่าจะไม่เก่าหรือทรุดโทรมจนน่ากลัวเน๊อะ เรทราคาประมาณคือละ 1,7xx -1,9xx ราคายังไม่รวมค่าธรรมเนียมการจอง ก็ตกลงจองห้องพักที่นี้

เมื่อมาถึงฮ่องกงเราก็นั่งรถบัสมาลงแถวที่พัก สถานที่ตั้งของรร.มีความสะดวกมาก ใกล้กับการเดินทางทั้งรถเมล รถใต้ดิน ใกล้แหล่งชอปปิ้ง อาหาร สะดวกมาก มาถึงทางขึ้นหน้าที่พักโอ้แม่เจ้าเป็นบันไดก่อนขึ้นลิฟท์ ถ้ากระเป่าหนักจะลำบากหน่อยต้องยกขึ้นแต่ก็ไม่ถึง20ขั้นนะคะพอขึ้นได้อยู่ ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน ลิฟต์มีขนาดเล็กนะคะเข้าได้ประมาณ3คนกับกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ เชคอินเข้าที่พักเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร ได้คีย์การ์ดเข้าห้อง ขนาดห้องพักเหมาะสำหรับพัก 2 คนกับกระเป๋า 2ใบไม่งั้นต้องขี่คอกันแน่นอน ห้องพักสะอาดดีคะไม่มีกลิ่นบุหรี่หรือเหม็นอับใดๆ ที่นอนหอมสะอาด นอนสบาย ในห้องที่เราได้มีหน้าต่างด้วย อุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำครบ(กระดาษทิชชู่ แปรงสีฟััน ยาสีฟัน ยาสระผม สบู่ ผ้าขนหนู ไดร์เป่าผม) ไวไฟสัญญาณแรงดี โดยรวมแล้วพอใจมากดูสะอาดปลอดภัย คิดว่าถ้าไปเที่ยวฮ่องกงจะกลับไปพักอีกค่ะ ลองดูรูปรีวิวจากหญิงดูนะคะ ข้อมูลเดือนพฤศจิกายนปี 2015

http://www.raileihotel.com/en/

ประสบการณ์ขอวีซ่าเชงเก้นท่องเที่ยว สถานฑูตเยอรมัน เดือนธันวาคม

October 31, 2015 in ต่างประเทศ, เยอรมัน

   วันนี้หญิงจะมาเล่าถึงประสบการณ์ขอวีซ่าเชงเก้นท่องเที่ยว ที่สถานฑูตเยอรมัน ก่อนที่เราจะไปขอวีซ่าเราต้องวางแผนการท่องเที่ยวในยุโรปของเราก่อนว่าจะไปประเทศอะไรบ้าง ลงที่สนามบินไหนก่อน แต่ละประเทศจะเที่ยวและพักอยู่ในประเทศนั้นๆกี่วัน พอเรารู้ว่าประเทศไหนที่เราอยู่นานที่สุดก็ต้องไปขอที่สถานฑูตประเทศนั้น หรือเป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศสมาชิกเชงเก้นที่เพื่อนๆจะเดินทางเข้าไปนะคะ

   ในครั้งนี้มีแผนการท่องเทียว 3 ประเทศ เยอรมัน สวิส อิตาลี และอยู่ในประเทศเยอรมันนานที่สุดและเป็นประเทศแรกที่ลงสู่ยุโรป เราเลยไปขอวีซ่าเชงเก้นที่สถานฑูตเยอรมันกันคะ ครั้งนี้จะเดินทางไปช่วงเดือนธันวาคมคะ เลยมาขอในช่วงปลายๆเดือนตุลาคม เพราะช่วงเดือนพฤศจิกายนจะยุ่งๆอาจไม่สะดวกมาขอวีซ่าจึงมาเดือนนี้เลย ก่อนอื่นการยื่นคำร้องขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวต่อสถานทูตเยอรมนีประจำกรุงเทพฯ เพื่อนๆ ต้องนัดหมาย โดยโทรศัพท์นัดหมายวันเวลากับ

ศูนย์บริการข้อมูลเทเลอินโฟ มีเดีย ที่หมายเลข 1900 222 343 (ค่าบริการนาทีละ 9 บาท)
วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 08.00 – 17.00 น. โทรได้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น
เลือกภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ศูนย์บริการข้อมูลจะขอชื่อ-นามสกุลและหมายเลขหนังสือเดินทางของท่าน
ปัจจุบันสามารถนัดหมายเพื่อยื่นคำร้องขอวีซ่าทางออนไลน์ได้แล้วนะคะ

เริ่มจากการกรอกข้อมูล https://videx.diplo.de ในระบบนี้ แล้วพิมพ์เป็นเอกสารออกมา และเตรียมเอกสารยื่นขอวีซ่าสถานทูตเยอรมันดังนี้คะ
1. หนังสือเดินทางฉบับจริงที่ยังมีอายุการใช้ โปรดตรวจสอบว่าหนังสือเดินทางของท่าน
– มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
– เป็นเล่มที่ออกมานานไม่เกิน 10 ปี
– ยังมีอายุใช้ได้อย่างน้อยอีก 3 เดือนนับจากวันเดินทางออกนอกประเทศสมาชิกเชงเกน
2. หนังสือเดินทางเล่มเก่า
3. รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก 2 ใบ
4. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกน
5. ลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 ข้อ 6 และมาตรา 55
6. หลักฐานยืนยันการจองที่พัก/เที่ยวบิน
7. หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินความคุ้มครองไม่ตํ่ากว่า 30,000.- เหรียญยูโร
8. หลักฐานการเงินสำหรับการเดินทางและการพำนัก (ได้แก่ หนังสือรับรองจากธนาคาร และสมุดบัญชีเงินฝากที่แสดงการเคลื่อนไหวทางด้านการเงินย้อนหลัง 3 เดือนสุดท้าย)
9. หลักฐานอื่นๆ ที่แสดงถึงความพร้อมที่จะเดินทางกลับประเทศและแสดงถึงภาระผูกพันหรือ ความสัมพันธ์ของท่านในประเทศไทย เช่น: ใบสำคัญการสมรส สูติบัตรของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติ ภาวะ สำเนาทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองการทำงาน และหนังสืออนุญาตให้ลาพักร้อน (ที่ระบุ ตำแหน่ง จำนวนปี การทำงานและเงินเดือน) หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท (กรณีประกอบ อาชีพอิสระหรือเป็นเจ้าของธุรกิจ) หนังสือรับรองจากโรงเรียนหรือสถาบันศึกษา สมุดบัญชีแสดงการ เคลื่อนไหวบัญชีในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โฉนดที่ดิน สัญญาเช่าบ้าน

เวลาเปิดทำการของสถานทูต: จันทร์ –ศุกร์ ระหว่าง 8.30 –11.30 น. สถานทูตจะปิดทำการในวันหยุดตามประเพณีของไทยและเยอรมัน

ที่อยู่ เลขที่ 9 ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ 10120

การเดินทาง สะดวกสุดสำหรับหญิงคิดว่าไปรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT คะ ลงสถานีลุมพินี ทางออก 2 เดินไปอีกไม่ไกลคะ ดีกว่าหาที่จอดรถ

ขั้นตอนการยื่นเอกสาร

1. ทางเข้าจะมีเจ้าหน้าตรวจกระเป๋า และให้ปิดเครื่องมือสื่อสาร และให้ฝากของอุปกรณ์ต่างๆที่ห้ามนำเข้า เช่น มือถือ, กล้องถ่ายรูปและอื่นๆ ไม่ให้ติดตัวเข้าไปด้านใน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของเหล่านั้น

2. แจ้งรหัสคิวยื่นวีซ่าให้เจ้าหน้าที่พร้อมเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่จะส่งกระดาษเล็กพร้อมบอกให้เราไปรอที่เคาท์เตอร์หมายเลขอะไร

3. ยื่นกระดาษเล็กกับเจ้าหน้าที่เคาท์เตอร์ที่ได้รับแล้วนั่งรอเรียกคิวคะ ระหว่างรอก็ตรวจเชคจัดเรียงเอกสารตามป้ายในสถานทูตจะสะดวกในการตรวจสอบคะ

4. ถึงคิวเรียกยื่นเอกสารและยืนสัมภาษณ์ตรงเคาน์เตอร์ เป็นคำถามทั่วๆไปคะ ไปกี่คน, เคยได้วีซ่าเชงเก้นมั๊ย, เที่ยวประเทศไหนบ้าง, แต่ละประเทศกี่วัน, นอนที่เยอรมันกี่คืน, นอนโรงแรมหรือคะ, ขับรถหรือเดินทางอย่างไร, ทำงานที่ไหน ทำอะไรอยู่, คำถามเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบิน, ไปครั้งนี้ไปทำอะไร

5. เมื่อสัมภาษณ์ ตรวจเอกสารเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะถามว่าให้ส่งหนังสือเดินทางทางไปรษณีย์หรือมารับด้วยตนเองที่สถานทูต และจะแจ้งวันที่รับให้ทราบ และเดินไปจ่ายค่าธรรมเนียมที่อีกช่องคะ

6. ชำระค่าธรรมเนียมคนละ 2,400 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ตุลาคม 58) จากนั้นเจ้าหน้าที่จะยื่นกระดาษคล้ายใบเสร็จและวันนัดรับหนังสือเดินทางให้เราคะ

   ไม่ยุ่งยากและไม่น่ากลัวอย่างที่ใครหลายๆคนเข้าใจกันใช่มั๊ยคะ ก่อนกลับอย่าลืมเอาของที่ฝากไว้คืนนะคะ ไม่ใช่ว่าดีใจจนรีบออกไป อิอิ จากนั้นนับวันรอ จัดกระเป๋ารอ หรือตรวจเชคสภาพอากาศก่อนเดินทาง ประมาณ 1 อาทิตย์ก็ได้เล่มเรียบร้อยคะ แล้วเดินทางได้เลยค่าาาาาาาาา

นั่งปิ้งซีฟู้ด บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างซีฟู้ดย่านรามอินทรา

October 1, 2015 in รีวิวร้านอาหาร

นั่งปิ้ง Seafood & Beer buffet

   บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลและเบียร์ไม่อั้น วันที่ได้ไปลอง ไปถึงประมาณทุ่มนิดๆได้ บรรยากาศแบบชิวๆ มีไฟดวงเล็กๆตกแต่งร้านได้ฟิลสบายๆ  ที่จอดรถกว้างขวางดีคะ ใครมีรถขับมาสะดวกเลยมีที่จอดไม่เหมือนบางร้านที่หาที่จอดย๊ากยาก มาพูดถึงอาหารกันบ้างดีกว่า ตอนที่ไปกินวันนั้นยังป่วยๆอยู่ แต่กินแล้วยังถือว่าดีนะ อาหารทะเลสดตัวใหญ่ น้ำจิ้มแซ่บ 3 รส 3 แบบ จิ้มกับกุ้งสดๆ กั้งตัวใหญ่ๆ ปูทะเลสดๆ ปลาหมึก หอยแมลงภู่ หอยหวานเผา หอยตลับ หอยเชลล์ พร้อมของหวานและอาหารอีกหลายอย่างแต่ดันลืมถ่ายรูปมารีวิว และที่ผู้ชายหลายคนปลื้มสุดเครื่องดื่ม และเบียร์ไม่อั้น เน้นว่าเบียร์กินได้ไม่จำกัดจริงๆแล้วแต่ความสามารถเลยคะ ทั้งหมดนี้ ในราคา 399 บาทในเวลา 1:30 ชั่วโมง ถ้าต้องการเพิ่มเวลา สามารถเพิ่มได้นะคะราคาสอบถามทางได้ได้เลย ของแบบนี้ต้องลองได้ไปทานเองถึงจะรู้ว่าดีไม่ดี ชอบไม่ชอบ ไปดูรูปบางส่วนที่ถ่ายมาได้บ้างนะคะ เพราะมั่วแต่ปิ้งเดี๋ยวจะไหม้หมด

ขอบคุณภาพจาก นั่งปิ้งซีฟู้ด

บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด

เติมอาหารตลอด ไม่ขาดตอน พนักงานบริการหน้าตายิ้มแย้ม

ในครั้งนี้เพื่อนๆก็ได้ต่อชั่วโมง เพราะเพื่อนๆยังรู้สึกอยากกินต่ออยู่ อร่อยและสนุก แบบว่าเตาที่นี้ไฟแรงได้ใจมาก แบบนี้คงเพลิน ใครไปพิสูจน์มาแล้วมาแชร์คอมเมนต์กันบ้างนะ ขอตัวไปกินก่อนนะคะ

 

Map(แผนที่)   http://goo.gl/maps/Mgx6O

Website(เว็บไซต์) : https://www.facebook.com/nungping.seafood/

สาขา หลังแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา

เวลาเปิด-ปิด เปิดบริการทุกวัน 17:00-23:00 น.

โทร 081-689-7115, 085-665-7979

ข้อมูล ณ วันที่ 7 สิงหา 58 นะคะ

โขงเจียมแสงแรกของประเทศไทย อุบลราชธานี

May 6, 2015 in ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทริปขับรถเที่ยวภาคเหนือรวม20สถานที่ท่องเที่ยวไว้ในครั้งนี้

March 3, 2015 in ภาคเหนือ

   ใครหลายๆคนคงเคยคิดที่จะขับรถเที่ยว แวะท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆทั่วไทย ยิ่งในช่วงหน้าหนาวการขับรถขึ้นเหนือขึ้นภูเขา ดูทะเลหมอกยามเช้า สูดอากาศบริสุทธิ์และหนาวเย็นคงจะเป็นอะไรที่ฟินมาก ช่วงหนาวๆเดือนพ.ย. – ม.ค. นักท่องเที่ยวมักเดินทางขึ้นเหนือไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นกันเยอะมาก แต่หญิงไม่สามารถสละเวลาไปเที่ยวได้เลย(ความจริงคือไม่สามารถลางานเจ้านายไปเที่ยวได้เลย เลยต้องนั่งอิจฉาผู้คนที่ไปเที่ยวไปก่อน) เดือนนี้ฤกษ์งามยามดีมาถึงแล้วเย้มีเวลาว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็ยังพอมีอากาศหนาวอยู่บ้าง เลยตั้งใจจะไปเที่ยวพักผ่อนแบบไม่มีแผนมากมาย ขับไปเรื่อยเป้าหมายอยู่ที่ดอยอินทนนท์กับดอยปุยคะ แต่ระหว่างทางจะแวะที่ไหนบ้าง ใช้เวลาเท่าไรไม่ได้กำหนดเลยคะ เริ่มเดินทางวันที่ 10-16 ก.พ. 58 มาดูสรุปคราวๆจากทริปนี้กันเลยคะ

อังคารที่ 10 ก.พ. ออกจาก กทม. ประมาณ 11 โมงกว่า แวะพักรถที่แรกจังหวัดนครสวรรค์ 1.อุทยานสวรรค์ ให้คนขับได้เดินเล่นยืดเส้นยืดสาย 2. หอชมเมือง เพื่อขึ้นไปชมวิวตัวเมืองนครสวรรค์และอำเภอใกล้เคียงได้ทุกทิศทางแบบ 360 องศา 3.วัดคีรีวงศ์ เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองนครสวรรค์และตั้งอยู่บนเขาดาวดึงส์ เดินชมรอบๆบริเวณวัดก็กว่ารู้ตัวก็บ่าย 3 โมงครึ่งแล้ว ออกเดินทางต่อดีกว่าเพราะคืนนี้ตั้งใจจะกางเต้นท์ที่ 4.อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เย็นๆก็รีบกางแล้วทำอาหารกินเบาๆแล้วนอนพักคะ

พุธที่ 11 ก.พ. ตื่นมาดูวิวยามเช้า กินอาหารเช้าเบาๆแล้วไปเดินเล่นชม 5.ต้นกระบากยักษ์ ซึ่งอยู่ในอุทยานนี้คะและยังมีทางเดินศึกษาธรรมชาติไปยังน้ำตกด้วยคะ หากใครเป็นสายนี้แนะนำเลยคะน่าสนใจ ธรรมชาติมากๆ ก่อนออกเดินทางกันต่อไปที่จังหวัดลำปางแวะไหว้ 6.พระบรมธาตุ จ.ตาก ก่อนเดินทางต่อ ประมาณ 4โมงเย็นก็ถึง 7.พระธาตุลำปางหลวง ดูเงาพระธาตุกลับหัวช่วงยามเย็นได้บรรยากาศสบายๆกับลมเย็นๆ ขับรถไปนอนแถวๆทางขึ้นดอยอินทนนท์คะคืนนี้

พฤหัสบดีที่ 12 ก.พ. ตื่นสายไปไหว้ 8พระธาตุจอมทอง แล้วไปโลตัสใกล้ๆซื้อของไว้ปิ้งย่างคืนนี้คะ เดินทางขึ้นดอยอินทนนท์ระหว่างที่เราเลือกแวะคือ 9.น้ำตกวชิรธาร แล้วเดินทางต่อไปที่ 10.ดอยชัวร์ญ่าคะ คืนนี้เรากางเต้นท์นอนกันที่นี้คะ กลางคืนจะได้ถ่ายวิวสวนเปิดไฟยามค่ำคืนพร้อมกับกินหมูกระทะ

ศุกร์ที่ 13 ก.พ. ตื่นเช้าไปจองบ้านพักที่ 11 สถานีเกษตรดอยอินทนนท์ แต่ไม่ได้จองล่วงหน้าจึงไม่ได้พักที่นี่คะจากไปอย่างผิดหวังเลยเปลี่ยนแผนไปเดินศึกษาธรรมชาติที่ 12.กิ่วแม่ปาน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงสำหรับเรานะคะกับระยะทาง 2 กิโลคะเดินไปพักถ่ายรูปไป 13.ยอดดอยอินทนนท์ มีอีกที่คะที่ใครๆมาก็ต้องแวะนั่นคือ พระธาตุดอยอินทนนท์ แต่เวลาในวันนี้เราหมดซะก่อนแล้วก็เคยมาแล้วจึงจำใจต้องลงจากดอยหาที่พักในตัวเมืองเตรียมขึ้นดอยสุเทพ-ปุย

เสาร์ที่ 14 ก.พ.  กินอาหารเช้าจากโรงแรมเรียบร้อยก็ขับรถไปต่อกันที่ 14 หมู่บ้านม้งดอยปุย อยู่ระหว่างทางขึ้น15.ดอยปุย นอนกางเต้นท์บนนี้ และมีเส้นทางไปขุนขางเคี่ยน แต่เรามาในช่วงที่ดอกพญาเสือโคร่งร่วงไปหมดแล้วเลยไม่ขอเข้าไป นอนดูวิวดูดาวที่นี่สบายๆก็พอคะ

อาทิตย์ 15 ก.พ. ตื่นมาเก็บเต้นท์ ออกเดินทางลงดอยพักรถที่ 16.ภูพิงคราชนิเวศน์ เดินนานเลยคะเพลินเพลินมาก แล้วไปชมวิวที่ 17.ผาดำ จุดชมวิวเห็นเทือกเขาซับซ้อนเรียงราย ก่อนลงจอดรถที่ 18.พระธาตุดอยสุเทพ เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้ากันคะไปไหว้พระธาตุก่อนกลับ สุดท้ายของวันเดินหาของกินซื้อเสื้อผ้า ของที่ระลึกที่ 19.ตลาดคนเดินถนนวัวลาย

จันทร์ 16 ก.พ. ได้เวลากลับ กทม. ขับเส้นเชียงใหม่ – ลำพูน – ลำปาง แวะ 20.อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เข้าไปดูเส้นแบ่งจังหวัดลำพูนกับลำปางที่นี่คะ และแถมด้วย 21. อุโมงค์ขุนตาล โชคดีมีรถไฟผ่านอุโมงค์มาให้ถ่ายพอดี ขับกลับกรุงเทพเห็นป้าย 22.วนอุทยานไม้กลายเป็นหิน  ก็แวะเดินดูอีก สรุปถึง กทม. ก็4ทุ่มกว่าๆเห็นจะได้
   การเดินทางไม่มีแผนที่ตายตัวนะคะ ใครที่กำลังวางแผนเอาไปปรับเปลี่ยนให้กระชับเวลาได้คงจะเที่ยวได้หลายที่กว่านี้ คือทริปนี้หญิงไปแบบช้าใช้ชีวิต slow life 555 ความจริงคือตื่นสายนะคะ แฮ่….วันนี้ขอลาไปก่อนดูภาพแต่ละที่ไปก่อนนะคะ จะมีรายละเอียดแต่ละวันที่เดินทางมาบันทึกไว้เป็นข้อมูลเป็นตอนๆไป ขอบคุณที่อ่านจนจบ พิมพ์ไปงงไปเพราะดองไว้นาน

1.อุทยานสวรรค์

1.อุทยานสวรรค์  เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ในเขตเทศบาลนครสวรรค์มีผู้นิยมไปพักผ่อนหย่อนใจกันมาก มีเนื้อที่ 314 ไร่ ใกล้ทางแยกสายเชียงใหม่-พิษณุโลก ติดกับถนนสายเอเชีย เราใช้เป็นจุดแวะพัก พักทั้งคน พักทั้งรถยนต์คะ เดินเล่นยืดเส้นยืดสาย ถ่ายรูปกันสักพักก็เดินทางกันต่อ

2 หอชมเมืองนครสวรรค์

2 หอชมเมืองนครสวรรค์ ตั้งอยู่บนเขาหลังวัดคีรีวงศ์ ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท ด้านในแอร์เย็นฉ่ำ ขึ้นมาจะเห็นวิวมุมสูงของเมืองนครสวรรค์ถ้ามาตอนเย็นๆคงดูวิวพระอาทิตย์ตกสวยมากจุดนึงนะเนี๊ย

วัดคีรีวงศ์ นครสวรรค์ เขาดาวดึงส์

3 วัดคีรีวงศ์ เขาดาวดึงส์ มีพระจุฬามณีเจดีย์เป็นองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขา ด้านในเจดีย์มีทั้งหมดสี่ชั้นเป็นทองเหลืองอร่ามไปทั้งเจดีย์ ทางขึ้นไปยอดเขาเป็นทางคอนกรีตอย่างดีถนนกว้าง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เดินทางสะดวกสบายขับง่ายชิลๆ

4.อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช

4.อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช 

5.ต้นกระบากยักษ์

5.ต้นกระบากยักษ์

6.พระบรมธาตุ จ.ตาก

7.พระธาตุลำปางหลวง

7.พระธาตุลำปางหลวง

8พระธาตุจอมทอง

8พระธาตุจอมทอง

10.ดอยชัวร์ญ่า

10.ดอยชัวร์ญ่า

11 สถานีเกษตรดอยอินทนนท์

11 สถานีเกษตรดอยอินทนนท์

12.กิ่วแม่ปาน

12.กิ่วแม่ปาน

13.ยอดดอยอินทนนท์

13.ยอดดอยอินทนนท์

14 หมู่บ้านม้งดอยปุย

14 หมู่บ้านม้งดอยปุย

15.ดอยปุย

15.ดอยปุย

16.พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

16.พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

17.ผาดำ

17.ผาดำ

18.พระธาตุดอยสุเทพ

18.พระธาตุดอยสุเทพ

19.ตลาดคนเดินถนนวัวลาย

19.ตลาดคนเดินถนนวัวลาย

20.อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล

20.อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล

21. อุโมงค์ขุนตาล

21. อุโมงค์ขุนตาล

22.วนอุทยานไม้กลายเป็นหิน

22.วนอุทยานไม้กลายเป็นหิน

 

 

 

เที่ยวกรุงเบิร์น เดินดูหมี SWITZERLAND สวิสเซอร์แลนด์

January 3, 2015 in Switzerland, ต่างประเทศ

ตื่นมาหาอาหารเช้ากินก่อน แฮมแผ่น

ธัญพืช ข้าวพอง คอนเฟรก โยเกริตใส่ผลไม้สด

เนยทาขนมปัง โยเกริตรสต่าง ชีส

แยมทาขนมปังชนิดต่างๆ อร่อยมากคะ สตอเบอร์รี่ บูลเบอร์รี่ ฮันนี่ ชอคโกแลต

ขนมปังธัญพืช ขนมปังฝรั่งเศสก็มีคะ ใส่เครื่องปิ้งขนมปังได้เลย ใส่จานตามใจชอบ แต่ต้องกินให้หมดนะคะ ทุกคนตักมากินหมดทุกคนเลยคะ

 

เชคอากาศก่อนออกซะหน่อย อุณหภูมิประมาณ 9 องศา

ใส่แจ๊คเก็ตคลุม ขาลองจอน+รองเท้าบูทก็เดินสบายๆแล้วคะ

วันนี้แพลนไปเดินเล่นในเมืองเบริน ไม่หนาวเพราะไม่ได้ขึ้นเขาสูงๆคะ

ตามมาเที่ยวกันเลยคะ

วันนี้ยกหน้าที่ให้น้องชายเป็นคนทำแผนเที่ยววันนี้คะ

เดินชมอาคารรัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์(Bundeshaus)

-> โบสถ์มุนสเตอร์ เซนต์ วินเซ็นซ์ ประจำกรุงเบิร์น(Munster St. Vinzenz)

-> ดูหมี

รีวิวที่พักอยุธยา ที่อยุธยารีทรีต (Ayutthaya Retreat)

October 16, 2014 in ที่พัก, ภาคกลาง

ที่พักอยุธยาในวันที่หญิงไปพักผ่อนมาคะ เราค้นหาที่พักโดยมีเงื่อนไขต่างๆดังนี้ บรรยากาศดี ใกล้ที่ท่องเที่ยว อยู่ไม่ห่างจากใจกลางเมืองอยุธยาเพราะเราจะได้เที่ยวได้ไม่ไกลคะ อยากได้ที่อยู่ริมน้ำจะดีมากเลยคะ ที่สำคัญขอบรรยากาศแบบไทยๆ มาอยุธยาทั้งที่ก็ขอเที่ยวแบบไทยๆบ้างนะคะ เราก็เข้าไปค้นหาที่พักที่อโกด้าดอทคอม http://www.agoda.com/  เพราะจองกับอโกด้ามั่นใจได้เลยว่าราคาที่พักจะพิเศษแน่นอน สะดวก รวดเร็ว แถมจองได้ตลอด 24 ชั่วโมง เค้ายังรับประกันว่าราคาที่เราได้นั้นถูกสุดๆคะ

เข้าไปเจอรีสอร์ทที่หนึ่งเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน นั่นก็คือ อยุธยารีทรีต (Ayutthaya Retreat)หญิงจะไปพักวันเสาร์ที่27กันยายน 2557 ก็ตรวจสอบห้องพักว่างก่อนเลยคะ ข้อมูลห้องพักตอนที่เราค้นเจอนั้นมี 8 ห้องเท่านั้นในเนื้อที่รีสอร์ททั้งหมด ว๊าวววววท่าทางจะส่วนตัวสุดๆเลยคะ จึงตัดสินใจไม่ยากจองเลยคะ!!! แถมราคาไม่แรงเลย 2,XXX ต่อคืน

เมื่อเรามาถึงที่พักเข้าเช็คอินเวลาประมาณบ่าย2 บ่าย3 ไม่แน่ใจคะ ได้รับเวลคัมดริ้ง (welcome drink) เป็นน้ำส้มเย็นชื่นใจพร้อมบริการต้นรับที่น่ารักจากผู้ที่ดูแลรีสอร์ทคะ ชื่อคุณ หนึ่ง ความรู้สึกเหมือนเดินเข้ามาบ้านญาติเลยคะ อบอุ่น ดูแลดีมาก แนะนำที่เที่ยวใกล้ๆให้เราพร้อมแผนที่ให้ด้วยคะ ยิ้มแย้มแจ่มใส และทักทายลูกค้าทุกท่านด้ววยความจริงใจจริงๆคะ ไปชมบรรยากาศระหว่างรอเชคอินกันนะคะ

เมื่อห้องพร้อมเรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นมาบนตัวบ้านเพื่อเก็บข้าวของกันคะ เป็นเรือนไทยนะคะด้านล่างเป็นลานใต้ถุนยกสูง ส่วนด้านบนจะเป็นห้องแบบบ้านเรือนไทย เราได้พักห้อง แก้วเจ้าจอมบริเวณหน้าห้องพักมีเก้าอี้หวายให้นั่งสบายๆด้วยคะ ประตูห้องพักเป็นไม้แบบโบราณแบบลงสลักไม้ในการล๊อคประตู แต่ก้าวเข้าไปแอร์เย็นฉ่ำเลยคะพร้อมกับแสงที่จัดไว้ในห้องช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากอากาศร้อนๆภายนอกได้ดีเลยคะ คุณหนึ่งพาชมห้องพักเพื่อแนะนำในส่วนต่างๆ ของห้อง และ

เดินออกมาจากโซนห้องนอนไปโซนห้องน้ำคะ แยกออกจากกันนะคะ แต่ไม่ใช่ห้องน้ำรวมนะอย่าเข้าใจผิดคะ ระหว่างทางเดินไปห้องน้ำแอบมองเห็นพื้นที่ระเบียงห้องพักข้างๆด้วยคะ แต่วันนี้ไม่มีคนเข้าพัก ในโซนห้องน้ำจะมีโซนยืนอาบน้ำฝักบัว(Shower) กับโซนอ่างอาบน้ำคะ (Baths) อ่างเป็นแบบกึ่งๆเอาท์ดอร์นะคะคือสามารถเปิดหน้าตาเพื่ออาบน้ำไปสัมผัสกับธรรมชาติไปได้คะ ไปชมภาพปลากรอบกันเลยคะ

 

ต่อคะ

รีวิวจุ่มบุฟเฟ่ต์ 1 ฟรี 1 ที่ จุ่มแซ่บฮัทมีรึเราจะพลาด

October 8, 2014 in รีวิวร้านอาหาร

จากโปรโมชั่นสุดแรงจากร้าน จุ่มแซ่บฮัท ในเครือBar B Q Plaza ที่คุ้นเคยกันดี

จัดช่วงเวลาสุดคุ้มครั้งแรก!!กับ จุ่มบุฟเฟ่ต์ ที่ร้านจุ่มแซ่บฮัท มีรึที่เราจะพลาด ปกติก็ชอบกินอยู่แล้วยิ่งล่อใจด้วยโปร 1 ฟรี 1 เราก็ต้องไปลองคะ ช่วงนี้เป็นช่วงแกรนด์โอเพนนิ่ง นั่นก็คือยังเปิดทดลองบางสาขาเท่านั้นนะคะ เอ๊ะแถวไหนบ้างที่จะมีโปรบุฟเฟ่ห์ จำไว้ให้แม่นๆนะคะตอนนี้มี 3 สาขาเท่านั้นคะ

เซ็นทรัลพระราม 3 ชั้น 1

เอสพลานาดรัชดา ชั้น B

เซ็นทรัลเซ็นเตอร์พัทยา

แต่วันนี้ที่เราไปเราไปสาขา เอสพลานาดรัชดา แน่นอนคะใกล้สุดแล้ว เราเลยคิดว่าคนต้องเยอะมากแน่เลย เพราะร้านนี้เปิดใหม่ ขนาดของร้านรู้สึกว่าจะเล็กกว่าแถวเซนทรัลลาดพร้าว เราเลยคิดว่าอาจจะต้องรอคิวนานหน่อยกว่าจะได้ลิ้มลอง เราไปถึงร้านตอนประมาณ 5 โมงเย็นคะได้คิวที่ 185 โอ้วแม่เจ้า….. ตอนนี้คิวอยู่ที่120กว่า คงจะต้องรอกันนานกันเลยทีเดียว

ระหว่างรอขอพูดถึงรายละเอียดกันหน่อยละกันนะคะ จุ่มบุฟเฟ่ต์ให้เวลาจุใจเต็มที่ 90 นาที(1ชั่วโมง30นาที) ทั้งเนื้อพรีเมี่ยมอย่าง สันคอออสเตรเลีย กุ้งแม่น้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารจานพิเศษมาให้เลือกสั่งได้ไม่อั้น ชุด จุ่มฟินฟิน 349 บาท/ท่าน (แซ่บไม่อั้น 45 รายการ)

ชุดรวมหมู / ชุดรวมเนื้อ / ชุดรวมลูกชิ้น / ชุดรวมผัก
เนื้อหมู
เนื้อหมูนุ่ม
เนื้อสไลด์
เนื้อติดมัน
เนื้อวัวนุ่ม
เนื้อไก่
ตับหมูสด
กุ้งสด
ปลาหมึกสด
เนื้อปลาทับทิม
และเมนูต่างๆ รวมเครื่องดื่ม (น้ำเปล่า, โค้ก, ชาอู่หลง) และของหวาน (น้ำแข็งไสถั่วแดง)

ชุด จุ่มซุปเปอร์ฟิน 399 บาท/ท่าน (เพิ่มเมนูฟินๆให้เลือกทานเป็น 56 รายการ)

เนื้อสันคอออสเตรเลีย
เนื้อชาบูสไลด์
หมุชาบูสไลด์
หมูคุโรบูตะพรีเมี่ยม
กุ้งแม่น้ำ
หอยเชลล์

ไม่นานก็ถึงคิวเราคะ ได้เข้าไปกินตอน 2 ทุ่มครึ่ง มารับบัตรคิวตอน5โมงเย็นก็รอประมาณ3-4ชั่วโมงคะ……โอ้วววววววว้าว โฉมร้านใหม่ จุ่มแซ่บฮัท จะตกแต่งแปลกตาไปจากเดิมนะคะ จากเดิมที่เป็นร้านสีเอริท์โทนน้ำตาลเขียว เป็นร้านตกแต่งโทนดำสีเข้มๆดูโมเดรินทันสมัย มีโต๊ะประมาณ 20 กว่าโต๊ะเห็นจะได้คะ ส่วนใหญ่จะเป็นโต๊ะสำหรับ 4 ที่หากใครที่มาเป็นกลุ่มเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆอาจจะต้องนั่งแยกโต๊ะกันนะ แต่ในอนาคตเพื่อให้เหมาะกับแนวบุฟเฟ่ต์ร้านอาจปรับแบบก็ได้ใครจะรู้

จุ่มแซ่บฮัท สาขาเอสพลานาดรัชดา

จุ่มแซ่บฮัท สาขาเอสพลานาดรัชดา

หม้อพร้อมน้ำซุปรสเด็ดสัญญาลักษณ์ของจุ่มแซ่บฮัทมาเสริฟแล้ว รสชาติเข้มข้นถึงใจเหมือนเดิมคะ

น้ำจิ้มมาเสริฟฟร้อม ใครที่สั่งชุด จุ่มซุปเปอร์ฟิน จะมีกุ้งแม่น้ำให้ด้วยนะคะจึงมีน้ำจิ้มแบบซีฟู้ดมาให้ด้วย

มาดูเมนูกันคะ

จุ่มแซ่บฮัทเมนู

จุ่มแซ่บฮัทเมนู

สั่งไปเลยคะอยากกินอะไร แล้วก็ทยอยมาเสริฟ

จุ่มแซ่บฮัท

จุ่มแซ่บฮัท

เนื้อสันคอออสเตรเลีย, เนื้อชาบูสไลด์, หมุชาบูสไลด์, หมูคุโรบูตะพรีเมี่ยม, กุ้งแม่น้ำ, หอยเชลล์, ตับหมู ในรอบแรกเราขอชิมเมนูใหม่ๆของจุ่มแซ่บก่อนเลย ปริมาณที่ได้ก็ถือว่าเยอะพอสำหรับ 2 คนนะคะ และชุดผัดจะมาในรอบแรกที่สั่งเลยนะคะ หากใครต้องการอะไรเพิ่มก็เลือกบางอย่างได้เลยคะ

เนื้อสันคอออสเตรเลีย ร้านจุ่มแซ่บฮัท

เนื้อสันคอออสเตรเลีย ร้านจุ่มแซ่บฮัท

ลวกๆๆชิมๆๆกันไปคะ เนื้อที่สไลด์มานั้นจะหนาหน่อยใครที่ชอบเนื้อแบบเต็มๆคำ กัดไปต้องชอบคะได้รสชาติเต็มๆ

เมนูต่อมา ลาบไก่ทอด มาในปริมาณพอสมควรไม่เยอะเกินไป ไม่น้อยเกินไป แบบนี้เราสามารถสั่งหลายๆอย่างมาชิมได้อีกหลายอย่าง ดีคะชอบ ส่วนรสชาติจัดจ้านและไก่ทอดมากรอบดีคะ ไม่ชืดนะคะยังรู้สึกว่าปรุงสดใหม่พอสมควร อาจเพราะลูกค้าสั่งตลอดจึงต้องทำบ่อยก็ได้คะ

เมนูต่อมา ส้มตำไข่เค็ม จานนี้รู้สึกจะชืดๆนะคะ เหมือนมะละกอช้ำๆ รสชาติอ่อนไปหน่อย หรืออาจเป็นเพราะทานอาหารหลายๆจานมาแล้วรสชาติเข้มข้นทั้งนั้นเลย มาเจอจานนี้เลยอ่อนไปคะ รู้สึกไม่ค่อยแซ่บ

ปอเปี๊ยทะเลสุดฮิตของเราไม่ได้คะเสียใจ ได้แต่ ปอเปี๊ยหมูทรงเครื่อง มาลองทางเท่านั้นเอง ลูกค้าเยอะคะคงจะลืม ไว้โอกาสหน้าค่อยมาลองใหม่ รสชาติใช่ได้กรอบ ใหม่ ไม่เหนียวแข็งค้างปีคะ…อิอิ

มาที่ ลูกชิ้นไข่ปลาป๊อป กันบ้างคะ ผ่าพิสูจน์ความไหลของไส้ดูค่ะ ว่าหน้าตาข้างในเป็นอย่างไร กัดไปคำแรกมันป๊อปจริงด้วยค่ะ ด้วยไข่ปลาที่ผสมในตัวไส้ของลูกชิ้นจะทำให้รู้สึกเหมือนกัดเม็ดไข่ปลาแตก เนื้อลูกชิ้นปลาอร่อยดีคะไม่เหม็นคาวเนื้อนุ่ม ใครชอบพวกลูกชิ้นปลาต้องสั่งคะอันนี้ห้ามพลาด

ลุยต่อกันเลยที่ เนื้อปลาทับทิมทอด ในเมนูมีป้ายติดไว้ว่าฮิตอีกแล้วคะ ก็เลยสั่งมาลองทาน จัดไปเบาๆคะ

สาหร่ายทรงเครื่องก็มาคะ

ทุกคนที่ได้เข้ามาคงจะมีความสุขในการกินทุกคนนะคะ เพราะต่างรอคิวในการเข้ามานานทรมานท้องเหลือเกิน ใครหิวอย่าจองค่ะขอเตือน ท่านอาจโมโหหิวได้ ลากันไปก่อนนะคะ ดูภาพประกอบเพิ่มเติมได้ล่างล่างเลยนะคะ ขอทานบุฟเฟ่ต์ให้คุ้มค่าการรอคอยก่อนนะคะ บ๊ายบาย…..^^

 

Map(แผนที่)


Website(เว็บไซต์)https://www.facebook.com/JoomZapHUT

สาขา เอสพลานาดรัชดา ชั้นB

เวลาเปิด-ปิด จันทร์ – อา.: 11:00 – 22:00

โทร –